ในการใช้งานคอมพิวเตอร์ ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีประสิทธิภาพการทำงานสูง แต่จากประสบการณ์ทำงานของผู้ใช้ทั่วไปก็ยังคงพบว่าเกิดปัญหาขึ้นอยู่เสมอ ซึ่ง
ปัญหาเหล่านี้มีหลากหลาย เช่น บางครั้งเกิดจากปัญหาโปรแกรมที่นำมาใช้ไม่สมบูรณ์ ปัญหาทางด้านอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ที่ใช้ หรือเกิดจากความผิดพลาดของผู้
ใช้เอง
ในบทนี้จะขอแนะนำยูทิลิตี้สำคัญ ๆ ที่สามารถเลือกนำมาใช้ในกรณีที่เกิดปัญหาขึ้นกับเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยโปรแกรมที่จะกล่าวถึง มีดังนี้
โปรแกรม Norton Antivirus แก้ปัญหาไวรัสคอมพิวเตอร์
โปรแกรม AdAware แก้ปัญหาเรื่องสปายแวร์
โปรแกรม EasyRecovery แก้ปัญหาเรื่องการกู้ข้อมูล
1. Norton Antivirus จัดการไวรัสคอมพิวเตอร์
ไวรัสคอมพิวเตอร์ คือโปรแกรมที่พยายามเข้าไปอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยไม่ให้เจ้าของเครื่องทราบ ไว้รัสคอมพิวเตอร์แพร่พันธุ์ได้โดยการเกาะติดกับ
โปรแกรมใช้งาน เช่น โปรแกรม Word และติดกับไฟล์ข้อมูล จนไปถึงแฝงตัวเข้าไปใน Windows
ไวรัสคอมพิวเตอร์ไม่ได้เกิดขึ้นมาเอง แต่เป็นโปรแกรมที่เขียนขึ้นโดยนักคอมพิวเตอร์ที่ต้องการเล่นสนุก หรือจงใจต้องการสร้างปัญหาให้กับผู้ใช้อื่น ๆ โดย
ลักษณะของไวรัสทุกตัว คือการเข้าไปอยู่ในหน่วยความจำของเครื่อง และพยายามแพร่พันธุ์ทางแผ่นดิสก์ สื่อบันเทิงต่าง ๆ หรือผ่านทางเครือข่ายคอมพิวเตอร์ใน
องค์กรและอินเทอร์เน็ต
ประเภทของไวรัสคอมพิวเตอร์
ปัจจุบันมีไวรัสเกิดขึ้นจำนวนมาก ซึ่งไวรัสแต่ละชนิดมีลักษณะที่แตกต่างกันไป ไวรัสบางชนิดอาจสร้างความปั่นป่วนเพียงเล็กน้อยในเครื่องคอมพิวเตอร์
แต่บางชนิดอาจสร้างปัญหาหนักกว่านั้นมาก เช่นมันอาจทำลายไฟล์ข้อมูลในเครื่อง ไปจนถึงทำให้ Windows ใช้งานไม่ได้เลย เราสามารถแยกประเภทของไว
รัสได้ ดังนี้
ไวรัสที่ซ่อนตัวใน Boot sector
Boot sector เป็นส่วนที่เก็บข้อมูลระบบที่คอมพิวเตอร์ต้องอ่านทุกครั้งเมื่อเรียกใช้ Windows ถ้ามีไวรัสเกาะอยู่ใน Boot sector ไวรัสตัวนั้นจะถูก
เรียกใช้พร้อมกับ Windows และจะเข้าไปอยู่ในหน่วยความจำด้วยหลังจากที่ไวรัสได้เคลื่อนย้ายเข้าไปอยู่ในหน่วยความจำ เมื่อใดที่มีการโอนย้ายข้อ
มูลไม่ว่าจะในรูปแบบใดก็ตาม คอมพิวเตอร์ที่นำข้อมูลจากเครื่องเราไปใช้จะติดไวรัสทันที
ไวรัสที่เกาะติดกับไฟล์ข้อมูล หรือโปรแกรม
ไวรัสที่แพร่พันธุ์โดยการเกาะติดกับไฟล์ข้อมูล หรือไฟล์โปรแกรมที่มีนามสกุล .com และ .exe (แต่บางไวรัสจะติดไฟล์ .sys .drv .bin และ .ovl ได้)
โดยเมื่อเราเรียกใช้ไฟล์ข้อมูลหรือไฟล์โปรแกรมนั้น ไวรัสจะเริ่มทำงานและเข้าไปอยู่ในหน่วยความจำ หลังจากนั้นเมื่อมีการเรียกใช้ไฟล์ข้อมูล หรือโปร
แกรมอื่น ไฟล์เหล่านั้นจะติดไวรัสทันที
ไวรัสที่เป็นมาโคร
ไวรัสประเภทนี้ เป็นมาโครที่ำทงานกับโปรแกรม Word หรือ Excel ซึ่งกำลังสร้างปัญหาอย่างมากเพราะเมื่อผู้ใช้คอมพิวเตอร์หันมาโอนย้ายไฟล์ข้อ
มูลผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ในองค์กร และอินเทอร์เน็ต (แบบไปกับอีเมล์) มากขึ้นเท่าใด ไวรัสประเภทนี้ก็ยิ่งแพร่กระจายได้รวดเร็วและกว้างขวางขึ้น
เท่านั้น
Norton Antivirus เป็นโปรแกรมที่มีการใช้งานค่อนข้างง่าย สามารถตรวจสอบไวรัสและซ่อมแซมไฟล์ที่ติดไวรัสให้โดยอัตโนมัติ การตรวจจับไวรัสที่ซ่อน
มากับอีเมล์ก่อนที่เราจะนำไฟล์อีเมล์นั้นมาใช้ และทำการโหลดข้อมูลเพื่ออัพเดตไฟล์สำหรับตรวจสอบไวรัสตัวใหม่ ๆ โดยอัตโนมัติ
เมื่อสงสัยว่าเครื่องของเราติดไวรัส หรือเมื่อนำแผ่นข้อมูล เช่น แผ่นซีดี/ดีวีดี หรือไดรว์หน่วยความจำมาจากที่อื่น เป็นต้น หรือในกรณีที่อัพเดตข้อมูลไวรัส
ใหม่เสร็จ ขอแนะนำให้ตรวจสอบไวรัสก่อนทุกครั้ง ดังขั้นตอนต่อไปนี้

เราสามารถระบุตำแหน่งบนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ต้องการตรวจหาและกำจัดไวรัส (ในขั้นตอนที่ 3) ได้ดังนี้
Scan Drives : สแกนเฉพาะไดรว์ที่ระบุ
Scan folders : สแกนเฉพาะโฟลเดอร์ที่เลือก
Scan files : สแกนเฉพาะไฟล์ทีเ่ลือก
ในที่นี้เลือกสแกนไดรว์ ซึ่งจะปรากฏรายการไดรว์ให้เราเลือก จากนั้นคลิกเปุ่ม Scan เพื่อให้โปรแกรมเริ่มตรวจหาไวรัสบนไดรว์หรือโฟลเดอร์ที่เราระบุ หลัง
ตรวจหาไวรัสถ้าโปรแกรมพบไวรัสก็จะแจ้งให้ทราบ เช่น ชื่อไวรัส ชื่อของไฟล์ที่ติดไวรัสตัวนี้ เป็นต้น โดยโปรแกรมจะจัดการไวรัสให้โดยอัตโนมัติ หรือเราเลือก
จักการเองก็ได้

ให้เราคลิกเมาส์ไปที่แท็บ Attention Required เพื่อเลือกรูปแบบการจัดการไฟล์ที่โปรแกรมสแกนพบ และคิดว่าน่าจะมีความเสียง (อาจจะเป็นไวรัส)
Fix : กู้ไฟล์ที่ติดไวรัสให้ใช้านได้เหมือนเดิม
Ignore : ไม่จัดการใด ๆ กับไฟล์นั้น เช่น กรณีที่ไฟล์ที่มีความเสี่ยงน้อย
Exclude : หากไฟล์ที่ติดไวรัสเป็นไฟล์ที่ไม่สำคัญ เราก็สามารถเลือกตัวเลือกนี้เพื่อนำไฟล์ไปกักกันไว้ในส่วนของ Quarantine
สำหรับไฟล์ที่โปรแกรม Norton AntiVirus ตรวจพบว่าน่าจะติดไวรัสเมื่อ
เลือก Exclude โปรแกรมจะส่งไฟล์นั้นไปกักกัน (Quarantine) ไว้ก่อน ซึ่งจะ
ไม่สามารถเรียกใช้งานไฟล์นั้ได้ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายไวรัสที่มากับไฟล์


โปรแกรม Norton Antivirus จะทำงานอยู่เบื้องหลัง คอยตรวจสอบไวรัสให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราอยู่ตลอดสังเกตไอคอน บริเวณทาสก์บาร์ โดย
เมื่อตรวจพบไวรัส โปรแกรมจะจัดการไว้รัสให้อัตโนมัติ และแสดงหน้าต่างให้ทราบ

2. AdAware จัการสปายแวร์ที่มากับอินเทอร์เน็ต
ปัญหาบางอย่างไม่ได้มาจากไวรัสก็มี แต่จะเป็นการเจอเข้ากับโปรแกรมพวกสปายแวร์ (Spyware) ที่แอบเข้ามาติดตั้งในเครื่องทางเน็ต ซึ่งเมื่อโปรแกรม
เหล่านี้ทำงานก็จะทำให้เครื่องช้า หรือรบกวนความเป้นส่วนตัวของเรา
2.1 รู้จักสปายแวร์
สปายแวร์ คือ ซอฟต์แวร์ขนาดเล็กที่แอบเข้ามาติดตั้งหรือทำงานบนเครื่องของเรา โดยมักเข้ามาขณะเปิดเว็บหรือเปิดอีเมล์ หรืออาจแฝงมากับซอฟต์แวร์ที่
ผู้ใช้โหลด และนำมาติดตั้งลงบนเครื่องแมื่อสปายแวร์ได้ย่างกรายเข้ามาอยู่เครื่องของเรา อาการที่ออกมาจะบ่งบอกได้หลายประการ ดังนี้
เมื่อเปิดบราวเซอร์ ปรากฏว่ามีหน้าเว็บอะไรก็ไม่รู้ขึ้นมาเป็นหน้าแรก และเข้าไปปรับแก้ไขแล้วก็กลับมาใหม่อีกทุกครั้งเมื่อเปิดเว็บ
มี Pop Up โฆษณาขึ้นมาอยู่ตลอด ในขณะที่เปิดเว็บค้างไว้ โดยที่ไม่ได้มีการคลิกหรือทำอะไรกับหน้าเว็บเลย
มีแถบเครื่องมือ (Tool Bar) แปลก ๆ เพิ่มขึ้นมาบนหน้าต่างบราวเซอร์
มีไอคอนโฏษณาปรากฏขึ้นมาบนเดสก์ท็อห แม้ลบไปแล้วก็ยังกลับมาแสดงตลอด
รายชื่อเว็บไซต์ใน Favorites เพิ่มขึ้นมาจากไหนไม่ทราบทั้ง ๆ ที่ไม่เคยเข้าเว็บนั้น ๆ มาก่อน
ไฟฮาร์ดดิสก์ก็มีการทำงานอยู่ตลอด ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ทำงานใด ๆ กับเครื่อง
หน้าเว็บใดที่เปิดเข้าไม่ได้ จะแสดงเป็นหน้าเว็บที่สปายแวร์เซตไว้ให้เป็นหน้าเว็บเริ่มต้นตลอด


ความจริงยังมีตัวป่วนอีกตัวหนึ่ง ก็คือ Adware ที่สร้างความรำคราญได้ใกล้เคียกัน โดย Adware โดยมักจะมาพร้อมกับโปรแกรมแจกฟรีทั้งหลายซึ่งจะถาม
ความสมัครใจของเราก่อน (แต่ส่วนใหญ่มักบังคับ) Adware พวกนี้ เราสามารถเอาออกไปได้ โดยจ่ายเงินเพื่อลงทะเบียนโปรแกรมให้เรียบร้อย
2.2 จัดการสปายแวร์ด้วยโปรแกรม Ad-aware
หากสงสัยว่าเจอกับสปายแวร์เข้าแล้ว ก็สามารถดาวน์โหลดโปรแกรมช่วยจัดการสปายแวร์มาติดตั้งได้ Ad-aware เป็นโปรแกรมฮิตที่ควรมีไว้ติดเครื่อง
เพราะการระบาดของสปายแวร์นั่นเอง โดยดาวน์โหลดโปรแกรมมาติดตั้ง และใช้งานได้ฟรีจากเว็บไซต์ www.download.com

หลังจัดการสปายแวร์หมดแล้ว จะพบว่าเครื่องทำงานได้ดีขึ้น นอกจากนั้นสปายแวร์ยังมีการเกิดขึ้นใหม่ของซอฟต์แวร์จำพวกนี้ขึ้นมาอยู่เรื่อย ๆ ดังนั้นจำเป็น
ที่เราต้องอัพเดตโปรแกรม Ad-aware เพื่อให้สามารถป้องกันสปายแวร์ได้อย่างครบเครื่อง

นอกจากโปรแกรม Ad-aware แล้ว อีกโปรแกรมหนึ่งที่กำลังได้รับความนิยมไม่แพ้กัน ก็คือโปรแกรมกำจัดสปายแวร์จากบริษัท Microsoft ที่ชื่อ Windows Defender ซึ่งถูกติดตั้งมาพร้อมกับ Windows Vista ด้วย

3. กู้ไฟล์ที่ลบไป กลับคืนมา
หากเราเผลอลบไฟล์ข้อมูลไป โดยกดปุ่ม <Delete> ธรรมดา วิธีนี้เราสามารถกู้ไฟล์กลับมาได้ใหม่ เพราะแท้ที่จริงแล้วการลบไฟล์/โฟลเดอร์เป็นการย้าย
ไฟล์ไปพักไว้ที่โฟลเดอร์ Recycle Bin เท่านั้นเพราะฉะนั้นเราสามารถกู้ไฟล์/โฟลเดอร์ที่ลบได้ง่ายมาก โดยให้เมาส์เปิดดู Recycle Bin และนำไฟล์ที่เก็บในนั้นไป
คืนไว้ที่เดิม ดังนี้

4. EasyRecovery กู้ไฟล์ที่ถูกลบแบบถาวร
ปกติข้อมูลที่ลบจะถูกเก็บใน Recycle Bin ไปเรื่อย ๆ จนเต็ม และเมื่อเต็มแล้ว ข้อมูลที่ลบครั้งต่อไปจะถูกนไมาเขียนทับข้อมูลที่เก่าที่สุดใน Recycle Bin
ดังนั้น เวลาเราสั่งลบข้อมูลไปนาน ๆ จะพบว่าข้อมูลนั้นหายไปจาก Recycle Bin แล้ว เพราะถูกเขียนทับด้วยข้อมูลที่ถูกลบล่าสุด
สำหรับวิธีการกู้ข้อมูลที่ลบไปแล้ว แต่ไม่อยู่ใน Recycle Bin หรือการกู้ข้อมูลที่ถูกลบแบบถาวรนั้น (ลบด้วยการกดปุ่ม <Shift> พร้อมกับ <Delete> ต้องใช้
โปรแกรมบางตัวเข้ามาช่วยในการกู้ข้อมูลกลับคืนมา ในที่นี้ขอแนะนำโปรแกรมกู้ข้อมูลที่ได้รับความนิยมสูงในปัจจุบัน คือ EasyRecovery
EasyRecovery เป็นโปรแกรมที่ใช้งานได้ง่ายสมชื่อ สามารถกู้ข้อมูลที่สูญหายหรือเสียไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นไฟล์ที่ถูกลบไปแบบถาวร
ไวรัสคอมพิวเตอร์ทำลายข้อมูลไป หรือเกิดจากการฟอร์แมตพาร์ทิชั่นนั้นไปแล้วก็ตาม ก็ยังสามารถกู้ไฟล์ข้อมูลกลับคืนมาได้อย่างน่าอัศจรรย์เลยทีเดียว

การทำงานของโปรแกรม EasyRecovery ก็คือจะทำการตรวจสอบพาร์ทิชั่นที่เลือก และแสดงไฟล์ทั้งหมดที่เคยอยู่บนพาร์ทิชั่น ทั้งที่เคยถูกลบไปแล้ว
ด้วย จากนั้นให้เราทำการเลือกไฟล์ที่ต้องการกู้กลับคืน หลังจากนั้นโปรแกรมจะทำการกู้ข้อมูลคืนกลับมาตามต้องการ เมื่อเราติดตั้งโปรแกรมแล้วสามารถเข้าใช้
งานโปรแกรม และดำเนินการกู้ข้อมูลตามขั้นตอนต่อไปนี้

เลือกไดรว์ข้อมูลทีจะกู้ข้อมูล
เปิด EasyRecovery ขึ้นมา และระบุไดรว์ที่ต้องการให้ค้นหาไฟล์ที่ถูกลบ โดยโปรแกรมจะตรวจสอบข้อมูลทั้งหมด และแสดงไฟล์ข้อมูลที่เคยมีอยู่ขึ้นมา

เลือกไฟล์ที่จะกู้
เมื่อโปรแกรมสแกนหาไฟล์ที่ถูกลบแล้ว จะแสดงไฟล์ทั้งหมดให้เห็นให้
เราเลือกไฟล์ที่จะกู้ ซึ่งต้องเข้าไปยังโฟลเดอร์ของไฟล์ที่ถูกลบไป

ระบุตำแหน่งสำหรับเก็บไฟล์ที่จะกู้
จากนั้นให้ระบุตำแหน่งสำหรับเก็บไฟล์ หลังจากที่โปรแกรมกู้กลับมาเรียบร้อยแลว ดังนี้

เริ่มต้นกู้ไฟล์ทีเลือก
หลังกำหนดค่าต่าง ๆ และเลือกไฟล์ที่ต้องการแล้ว ให้เราเริ่มต้นสั่งโปรแกรมกู้ไฟล์ ดังนี้

เมื่อเข้าไปดูไดเร็กทอรีที่กำหนดไว้ สำหรับเก็บไฟล์หลังกู้เสร็จแล้ว ก็จะพบกับไฟล์ที่เรากู้กลับมาตามต้องการ
