อัพเกรดเครื่อง หรือซ่อมเครื่องที่ปัญหาเกิดจากอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์นั้น ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับการถอด/ประกอบเครื่องด้วยเสมอ
1. ขั้นตอนของการประกอบเครื่อง
หลังจากได้เตรียมอุปกรณ์ต่าง ๆ ไว้พร้อมแล้ว จากนั้นก็เป็นการจัดลำดับขั้นตอนในการประกอบเครื่อง โดยเริ่มต้นจากการติดตั้งซีพียูเข้ากับ Socket บนเมน
บอร์ดก่อน (รวมทั้งติดตั้งฮีตซิงค์สำหรับระบายความร้อนบนตัวซีพียูด้วย) จากนั้นจึงทำการติดตั้งแรม พร้อมสายเคเบิลต่าง ๆ และนำเมนบอร์ดติดตั้งเข้ากับตัวเคส
ตามด้วยการติดตั้งไดรว์ และการ์ดต่าง ๆ สุดท้ายจึงเป็นการเชื่อมต่ออุปกรณ์ภายนอก ดังรูป

ข้อแนะนำในการประกอบเครื่อง
1. การใช้เครื่องมือระหว่างประกอบเครื่อง และติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ ควร
ทำอย่างระมัดระวัง เช่น การใช้ไขควงหรือคีมปากแหลม เพื่อไม่ให้พลาดไปขูด
ขีดกับแผ่นวงจรของเมนบอร์ด เพราะเมนบอร์ดมีเส้นวงจรขนาดเล็กมาก ซึ่งมี
ผลทำให้เส้นวงจรขาดได้

2. หลักเลี่ยงการใช้มือสัมผัสกับแผ่นวงจรของอุปกรณ์โดยตรง เพราะมือ
ของเราที่จับอยู่นั้นจะมีความชื้น หรือเหงื่อ ดังนั้นอาจมีผลทำให้เป็นตัวนำไฟ
ฟ้าได้

3. การติดตั้งแรม หรือการ์ดต่าง ๆ บนสล็อต ควรค่อยๆ ใช้แรงกดลงไป
เพราะถ้ากดแรงจะมีผลทำให้แผ่นวงจรของเมนบอร์ดหักได้

2. การติดตั้งซีพียู
ในขั้นตอนนี้ ก่อนที่จะนำเมนบอร์ดไปยึดเข้ากับเคส เราจะเริ่มต้นติดตั้งอุปกรณ์ที่สำคัญ นั่นก็คือ ซีพียูบนซ็อกเก็ต (Socket) ของเมนบอร์ด เพราะการติตดตั้ง
ซีพียูหลังจากที่เราติดตั้งเมนบอร์ดเข้ากับเคสแล้วนั้นจะทำได้ยาก เนื่องจากมีพื้นที่น้อย นอกจากนี้แล้วการติดตั้งซีพียูจะต้องทำการติดตั้งเข้ากับเมนบอร์ดให้แน่น
กระชับที่สุด ถ้าไม่แน่นอนอาจจะทำให้เครื่องบู๊ตไม่ได้หรือต้องรีสตาร์ทบ่อย ๆ

ซีพียูในปัจจุบัน (ทั้ง Intel และ AMD) จะมีลักษณะคล้ายกัน คือเป็นชิปรูปทรงสี่เหลี่ยม โดยบริเวณด้านหลังของตัวซีพียูจะมีขาพินสำหรับเสียบเข้ากับช่อง
ซ็อกเก็ตบนเมนบอร์ด (แพ็กเกจแบบ PGA รุ่นเก่าของซีพียูจาก AMD และใน Intel) หรือเป็นปุ่มโลหะกลมหน้าสัมผัสโลหะเพื่อวางสัมผัสลงบนซ็อกเก็ต (แพ็กเกจ
แบบ LGA ในซีพียูของ Intel ทุกรุ่นในปัจจุบัน) ซึ่งจะมีรอยตัดที่มุม 2 มุม เพื่อกำหนดให้สามารถวางแนวตัวซีพียูให้ตรงกับซ็อกเก็ต
ในการติดตั้งซีพียูนั้น อาจแบ่งลำดับการติดตั้งออกเป็น 2 ขั้นตอนย่อย ๆ คือ การติดตั้งซีพียู และการติดตั้งฮีตซิงค์หรือคูลเลอร์ (Cooler) เพื่อระบายความ
ร้อนให้กับตัวซีพียู พร้อมต่อสายพัดลมให้กับตัวฮีตซิงค์ ในที่นี้ขอยกตัวอย่างการติดตั้งซีพียูซ็อกเก็ต LGA 775 ของค่าย Intel
2.1 ติดตั้งซีพียูบนซ็อกเก็ต
ต่อไปเราก็จะทำการติดตั้งซีพียูเข้ากับซ็อกเก็ต โดยมีขั้นตอนดังนี้
1. กรณีที่เป็นเมนบอร์ดใหม่บนซ็อกเก็ต LGA 775 จะมีฝาครอบสีดำ
ป้องกันซ็อกเก็ตอยู่ ให้เรายกฝาครอบนี้ออกก่อนอย่างระมัดระวัง โดยจับด้าน
ข้างและยกขึ้นทางฝั่งที่ไม่มีตัวล็อกก่อน

2. ให้เรายกก้านล็อกซีพียูขึ้น โดยวิธีการยกต้องดึงออกมาด้านข้างเล็ก
น้อยเพื่อให้พ้นตัวล็อก แล้วยกขึ้น (อย่าฝืนดึงขึ้นมาตรง ๆ เพราะอาจทำให้ตัว
ยึดที่ล็อกซีพียูเสียหายได้)

3. บนซ็อกเก็ตซีพียู LGA 775 จะมีฝาครอบซีพียูอีกชั้นหนึ่งเพื่อให้ติด
ตั้งซีพียูได้กระชับยิ่งขึ้น ให้เรายกฝาครอบนี้ขึ้นมาก่อน จะเห็นซ็อกเก็ตซีพียูซึ่ง
ไม่ได้เป็นร่องสำหรับเสียบขาพินแบบเดิม แต่เป็นปุ่มโลหะยื่นขึ้นมา เพื่อสัมผัส
กับปุ่มของซีพียูแพ็กเกจ LGA 775 ของ Intel

4. นำซีพียูมาวางลงบนซ็อกเก็ตสังเกตุมุมด้านข้างของซีพียู จะมีช่องตัด
เว้าอยู่ 2 ช่ิองด้านข้าง ซึ่งมีซ็อกเก็ตก็จะมีตำแหน่งยื่นออกมา เพื่อรับกับช่อง
เว้าของชิปซีพียูพอดี

5. ปิดฝาโลหะครอบลงบนตัวซีพียูเพื่อเป็นการล็อกตำแหน่งการวางของ
ตัวซีพียูให้กระชับขึ้นแต่การล็อกซีพียูให้ติดแน่นกับซ็อกเก็ตจะอยู่ที่การใช้ก้าน
ล็อกซีพียู

6. กดก้านล็อกของซีพียูลง (อาจต้องใช้แรงกดเล็กน้อย ให้ตัวล็อกเข้า
ไปอยู่ในตำแหน่งล็อกตามเดิม) เพื่อทำการล็อกซีพียูให้ยึดติดแน่นกับซ็อกเก็ต

เป็นอันจบขึ้นตอนการติดตั้งซีพียูลงบนซ็อกเก็ตขั้นตอนต่อไปคือติดตั้งคูลเลอร์ (หรือฮีตซิงค์) เพื่อช่วยระบายความร้อนออกจากตัวซีพียูในขณะใช้งานเครื่อง
คอมพิวเตอร์
2.2 ติดตั้งฮีตซิงค์บนซีพียู
ฮีตซิงค์ (Heatsink) หรือคูลเลอร์ (Cooler) เป็นอุปกรณ์ที่ถูกนำมาใช้ในการช่วยระบบความร้อนให้กับตัวซีพียูในขณะที่ซีพียูกำลังทำงาน ซึ่งหลังการติดตั้ง
ฮีตซิงค์ประกอบกับตัวซีพียูด้วย ดังขั้นตอนต่อไปนี้
ด้านข้างของคูลเลอร์จะมีขา 4 ขาสำหรับล็อกเข้ากับฐานบนเมนบอร์ด
เพื่อให้ยึดเข้ากับเมนบอร์ดและส่วนของฮีตซิงค์แนบแน่นกับตัวชิปซีพียู ให้
สามารถนำความร้อนออกจากตัวซีพียูได้มากที่สุด

ด้านข้างของคูลเลอร์จะมีส่วนสำหรับยึดเก็บสายไฟ/สายสัญญาณ ของ
ตัวคูลเลอร์ให้เก็บอยู่อย่างเป็นระเบียบ เพื่อไม่ให้รก หรือไปพันกับพัดลมของ
คูลเลอร์เมื่อใช้งานจริง ก่อนจะนำคูลเลอร์ไปติดตั้งบนตัวชิปซีพียู

1. นำฮีตซิงค์มาติดตั้งบนตัวซีพียู ซึ่งจะมีฐานล็อกของฮีตซิงค์บนเมน
บอร์ดที่เราสามารถวางฮีตซิงค์ลงไปได้ทันที โดยยึดแกนล็อกเข้ากับฐาน

2. บนฮีตซิงค์จะมีขาล็อกเพื่อยึดกับตัวเมนบอร์ด เพียงเราวางขาทั้ง 4 ให้ตรงช่อง และกดลงไปให้ลงล็อก เพื่อล็อกฮีตซิงค์ให้ติดแน่นกับตัวชิปซีพียู เท่านี้
ก็เรียบร้อย

3. นำขั้วสายไฟของพัดลมระบายความร้อนเสียบเข้ากับซ็อกเก็ตจ่ายไฟ
บนเมนบอร์ด ซึ่งจะอยู่ข้าง ๆ ของสล็อตติดตั้งซีพียูนั่นเอง

จากนั้นก็ถือเป็นการเสร็จสิ้น การติดตั้งซีพียูและฮีตซิงค์ลงบนซ็อกเก็ต
บนเมนบอร์ด

3. การติดตั้งแรม
การติดตั้งแรมนี้เราควรจะติดตั้งก่อนที่จะนำเมนบอร์ดประกอบเข้ากับเคส ที่เราต้องทำเช่นนี้เพราะแรมมีส่วนที่ยึดกับเมนบอร์ดเท่านั้น ไม่มีส่วนที่ยึดกับเคส
เลย อีกทั้งการติดตั้งภายนอกเคสยังสะดวกมีพื้นที่ในการติดตั้งมากกว่า และยังสามารถมองเห็นตำแหน่งขาต่าง ๆ ได้ชัดเจนด้วย
แรมในปัจจุบันนั้นมีอยู่ 3 ประเภทคือ DDR, DDR2 และ RDRAM ซึ่งแรมแต่ละประเภทก็จะมีช่องสล็อตสำหรับติดตั้งบนเมนบอร์ดที่แตกต่างกันไปและเมน
บอร์ดส่วนใหญ่จะสนับสนุนแรมชนิดใดชนิดหนึ่งเท่านั้น โดยแรมทั้ง 3 ชนิดนี้จะมีวิธีการติดตั้งคล้ายกันนั่นเอง เราต้องเริ่มต้นโดยการสำรวจดูว่าสล็อตติดตั้งแรม
ของเราอยู่ตำแหน่งใด (สามารถเปิดดูจากคู่มือของเมนบอร์ด)
1. ก่อนอื่นให้เราค้นหาตำแหน่ง DIMM1 (หรือ DDR1 หรือ RIMM1 กรณีเป็นแรมชนิด RDRAM) ซึ่งเป็นช่องสล็อตที่ใช้สำหรับติดตั้งแรมตัวแรกถ้าหากเรา
จะติดตั้งแรมตัวที่ 2 และ 3 ก็จะเสียบลงในช่อง DIMM 2 และ 3 ตามลำดับ
2. จากนั้นให้ง้างขาล็อกแรมของสล็อต DIMM1 (หรือ DDR1) ออกทางด้านข้างทั้ง 2 ข้าง
3. ใช้มือจับแรมตรงบริเวณขอบด้านข้างของแผ่นวงจร จากนั้นยกแรมมา
วัดกับสล็อต DIMM1 ก่อนที่จะเสียบลง โดยให้ร่องที่อยู่บนแรมตรงกับแกนที่อยู่
บนสล็อตของ DIMM

4. ส่วนของแผ่นวงจรจะมีร่องซึ่งแบ่งแผ่นเป็น 2 ส่วน แต่ส่วนที่มีผลต่อการ
เสียบแรมก็คือส่วนที่มีความยาวมากกว่า ดังนั้นเราควรเสียบส่วนนี้เข้าไปก่อนแล้ว
จึงค่อย ๆ กดส่วนที่สั้นกว่าตามไป

5. สังเกตได้ว่า ตัวล็อกจะยึดเข้ากับร่องด้านข้างของแรมพอดี ซึ่งแรมถูก
ติดตั้งเข้ากับสล็อตจนลงตัว

4. ติดตั้งเมนบอร์ดเข้ากับเคส
เมื่อเราได้ติดตั้งอุปกรณ์ที่สำคัญ คือ ซีพียู แรม เข้ากับเมนบอร์ดเรียบร้อยแล้ว ต่อไปเราจะต้องนำเมนบอร์ดมาประกอบเข้ากับเคส เพื่อจะต่อร่วมกับอุปกรณ์
ต่าง ๆ จนได้เป็นเครื่องที่สมบูรณ์ ในหัวข้อนี้เราจะมาดูขั้นตอนการติตดั้งเมนบอร์ดเข้ากับตัวเคส ซึ่งนับได้ว่ามาถึงครึ่งทางในการประกอบเครื่องพีซีกันแล้ว
ในเคสบางตัว เราจะต้องเริ่มต้นโดยการติดตั้งเมนบอร์ดเข้ากับแผ่นรองเมนบอร์ดก่อนซึ่งเป็นแผ่นโลหะที่เราสามารถถอดออกมาจากเคสได้ จากนั้นเมื่อเสร็จ
แล้วจึงจะนำแผ่นรองพร้อมเมนบอร์ดเข้าไปยึดกับเคส แต่ในเคสรุ่นใหม่ ๆ มักจะสามารถติดตั้งเมนบอร์ดเข้ากับเคสได้ทันทีโดยมีแผ่นรองเมนบอร์ดที่ติดตั้งไว้บน
เคสให้อยู่แล้ว
1. สำรวจส่วนท้ายของเมนบอร์ด ซึ่งประกอบด้วยคอนเน็กเตอร์ที่จะยื่น
ออกมาภายนอกเคสสำหรับเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายนอก ดังนั้นเราจะต้องไปเปิด
ช่องด้านหลังเคสเพื่อให้ส่วนของคอนเน็กเตอร์นี้สามารถยื่นออกไปได้

2. ก่อนติดตั้งเมนบอร์ด ให้เราวางตัวเคสนอนลงกับพื้น เพื่อความสะดวกใน
การติดตั้งเมนบอร์ดบนเคส

3. เมนบอร์ดส่วนใหญ่มักจะมีจุดให้ใส่แท่นไว้ด้านหลังเมนบอร์ด เพื่อเมื่อมี
การกดทับลงไปบนเมนบอร์ด แท่นตัวนี้จะช่วยรับแรงกดได้ (ไม่ได้เป็นตัวยึดเมน
บอร์ดกับเคส) นอกจากนั้นยังช่วยป้องกันกระแสไฟลัด หากแผงเมนบอร์ดไป
แนบติดกับตัวเคสด้วย

4. สอดส่วนนี้ท้ายของเมนบอร์ดออกมาทางช่องด้านหลังของเคส ซึ่งคอน
เน็กเตอร์ต่าง ๆ จะสามารถสอดออกมาได้พอดี

5. จากนั้นเมนบอร์ดจะวางอยู่บนฐานรองพอดีจะเห็นรูที่เหลือบนเมนบอร์ด
เพื่อใช้สำหรับยึดน็อตให้เมนบอร์ดถูกติดตั้งเข้ากับแท่นรอง

6. ใช้ไขควงขันน็อตเพื่อยึดเมนบอร์ดเข้ากับแท่นรอง ในขณะที่ออกแรงขัน
น็อตอยู่นั้นเราจะต้องระวังไม่ให้ไขควงพลาดไปขูดกับแผ่นวงจรของเมนบอร์ดซึ่ง
จะทำให้ลายวงจรนั้นเสียหายได้ สุดท้ายเราก็สามารถยึดเมนบอร์ดเข้ากับเคสได้
ตามต้องการ

5. ติดตั้งสายไฟเลี้ยงและสายสัญญาณ
ในหัวข้อที่ผ่านมานั้น เราได้ติดตั้งเมนบอร์ดเข้ากับตัวเคสเพื่อที่จะนำอุปกรณ์ต่าง ๆ เข้ามาประกอบร่วมกันจนสำเร็จเป็นเครื่อง เนื้อหาในหัวข้อนี้จะกล่าวถึง
การติดตั้งสายไฟที่จ่ายไฟเลี้ยงให้กับเมนบอร์ดติดตั้งสายสัญญาณต่าง ๆ สำหรับแสดงสถานะการทำงานของเครื่อง
5.1 ติดตั้งสายไฟเลี้ยงบนเมนบอร์ด
สายไฟเลี้ยงที่มาจาก Power Supply ซึ่งเป็นแหล่งจ่ายไฟของเครื่องนั้น มีอยู่หลาย ๆ ชนิดด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นสายไฟเลี้ยงสำหรับเมนบอร์ด สายไฟเลี้ยง
สำหรับฮาร์ดดิสก์และไดรว์ซีดี/ดีวีดี และสายไฟเลี้ยงสำหรับฟล็อปปี้ดิสก์ไดรว์ ซึ่งจะมีขนาดต่าง ๆ กันไป ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักสายไฟเลี้ยงแตละชนิดกันก่อน
สายไฟที่กำลังกล่าวถึงนี้ คือสายไฟที่ใช้สำหรับจ่ายไฟเลี้ยงจาก Power Supply ไปยังเมนบอร์ด และอุปกรณ์ต่าง ๆ เราสามารถแบ่งสายไฟเลี้ยงออกเป็น
ชนิดต่าง ๆ ได้ดังนี้
สายไฟเลี้ยงสำหรับเมนบอร์ด (ATX Power Connector) : มีขั้วต่อ
ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด และมีเพียงขั้วต่อเดียวเท่านั้น สำหรับจ่ายไฟให้กับ
เมนบอร์ดโดยตรง โดยมี 2 รุ่น คือ สายไฟเลี้ยงขนาด 2 พิน สำหรับเมน
บอร์ด ATX ทั่วไป และสายไฟเลี้ยงขนาด 24 พิน สำหรับเมนบอร์ด
ATX ซ็อกเก็ต LGA-775

สายไฟเลี้ยงสำหรับซีพียู (ATX12V Connector) : สำหรับเมน
บอร์ดที่ติดตั้งชิปซีพียูความเร็วสูง โดยเฉพาะซีพียูตระกูลต่าง ๆ ของอิน
เทล จะมีสายไฟเลี้ยงเป็นขั้วต่อแยกออกมาจากสายไฟเลี้ยงเมนบอร์ด

สายไฟเลี้ยงสำหรับฮาร์ดดิสก์ IDE และซีดี/ดีวีดี ไดรว์ (Molex
4-pin Connector) : ขั้วต่อของสายไฟเลี้ยงชนิดนี้มีขนาดใหญ่รองลง
มาและมีจำนวนมากที่สุด เพราะใช้ต่อเข้ากับฮาร์ดดิสก์และซีดี/ดีวีดี

สายไฟเลี้ยงสำหรับฮาร์ดดิสก์ SATA (Serial ATA) : ขั้วต่อของสาย
ไฟเลี้ยงของฮาร์ดดิสก์รุ่นใหม่นี้ จะมีขนาดเล็กลง เพื่อให้ภายในตัวเคส
สามารถระบายอากาศได้ดีขึ้น

สายไฟเลี้ยงสำหรับฟล็อปปี้ดิสก์ไดรว์ : มีขนาดเล็กที่สุด โดยสาย
ไฟเลี้ยงชนิดนี้มีทั้ง 2 เส้นเพื่อจ่ายไฟให้กับฟล็อปปี้ดิสก์ไดรว์ (ซึ่งต่อได้
สูงสุด 2 ตัว)

หลังจากทีเราได้รู้จักสายไฟเลี้ยงแบบต่าง ๆ กันแล้ว ต่อไปก่อนทีเราจะติดตั้งสายไฟเลี้ยงเข้ากับซ็อกเก็ตบนเมนบอร์ดก่อน โดยมีขั้นตอนดังนี้
1. สำรวจตำแหน่งซ็อกเก็ตสำหรับเสียบสายไฟเลี้ยงของเมนบอร์ดบนตัว
เมนบอร์ด

2. ใช้มือจับขั้วสายไฟเลี้ยง และวัดให้ตัวล็อกที่อยู่บนขั้วของสายไฟเลี้ยง
นั้นตรงกับตัวล็อกที่อยู่บนซ็อกเก็ตของเมนบอร์ด

3. ใช้มือจับขั้วสายไฟเลี้ยง และเสียบเข้ากับซ็อกเก็ตบนเมนบอร์ด ใช้นิ้ว
กดลงบนขั้วสายไฟทั้งสองด้าน เพื่อให้ตัวล็อกทั้งสองยึดเข้าติดกัน เพียงเท่านี้ก็
เป็นการเสร็จสิ้นการติดตั้งสายไฟเลี้ยงให้กับเมนบอร์ด

5.2 ติดตั้งสายสัญญาณเข้ากับเมนบอร์ด
บนหน้าปัดด้านหน้าเคสจะมีไฟแสดงสถานะการทำงานของเครื่อง เช่น ไฟ
Power, ไฟแสดงการทำงานของฮาร์ดดิสก์ เป็นต้น ซึ่งจะเชื่อมต่อมาจากสาย
สัญญาณต่าง ๆ โดยเราจะต้องเสียบสายสัญญาณเหล่านี้เข้ากับซ็อกเก็ตที่อยู่บน
เมนบอร์ดในขั้นตอนประกอบเครื่อง รวมถึงสายสัญญาณสวิตซ์สำหรับเปิดหรือรี
เซตเครื่องด้วย

ซ็อกเก็ตสำหรับเสียบสายสัญญาณบนเมนบอร์ดนั้นมีหลายตัวด้วยกัน แต่จะมีสัญญาณที่มากับเคสให้เราเสียบจริง ๆ ดังนี้
POWER-SW (Power Switch) เป็นสวิตซ์สำหรับเปิดให้เครื่องทำงาน ส่วนการปิด
เครื่องจะทำได้จากการสั่ง Shut down จาก Windows หรือโดยการกดสวิตซ์นี้ค้างไว้
4 วินาที (ให้ใช้เฉพาะในกรณีที่สั่ง Shut down จาก Windows ไม่ได้)

RESET-SW (Reset Switch) จะเชื่อมต่อกับสวิตซ์ที่ใช้รีเซ็ตเครื่อง เพื่อรีสตาร์ทให้
เครื่องทำงานใหม่หลังจากที่เครื่องค้างไม่ทำงาน

PWR-LED (Power/Standby LED) จะเชื่อมต่อกับหลอดไฟ LED ที่อยู่ด้านหน้าของ
เคส เพื่อบอกให้เราทราบว่าเครื่องถูกเปิดทำงานอยู่

SPEAKER (Speaker Connector) จะเชื่อมต่อกับลำโพงที่อยู่ด้านในเคส เพื่อจะช่วย
ส่งเสียงบอกสถานะ และเตือนเมื่อเครื่องทำงานผิดพลาด

HDD-LED (IDE LED) จะเชื่อมต่อกับหลอดไฟ LDE ที่อยู่ด้านหน้าของเคส เพื่อบอกให้
ทราบว่าขณะนี้ฮาร์ดดิสก์กำลังทำการรับ/ส่งข้อมูลอยู่

ก่อนที่เราจะทำการติดตั้งสายสัญญาณเข้ากับซ็อกเก็ตนั้ เราจะต้องทำการรสำรวจตำแหน่งของซ็อกเก็ตที่อยู่บนเมนบอร์ดก่อนว่าซ็อกเก็ตแต่ละตัวอยู่ในตำ
แหน่งใด หลังจากที่ทราบตำแหน่งของซ็อกเก็ต พร้อมกับตำแหน่งของขาสัญญาณต่าง ๆ แล้ว ให้เราจับขั้วของสายสัญญาณเสียบเข้ากับซ็อกเก็ต (หากไม่แน่ใจ
ให้ดูตำแหน่งซ็อกเก็ตสายสัญญาณเหล่านี้ได้จากคู่มือเมนบอร์ดรุ่นนั้น ๆ)

6. ติดตั้งฟล็อปปี้ดิสก์ไดรว์ ฮาร์ดดิสก์ และไดรว์ซีดี/ดีวีดี
ขั้นตอนนี้จะเป็นการติตดั้งไดรว์เข้ากับเคส และพร้อมกับต่อสายเคเบิลเข้ากับไดรว์ทุกตัว
6.1 ติดตั้งฟล็อปปี้ดิสก์ไดรว์
ฟล็อปปี้ดิสก์ไดรว์ (Floppy Disk Drive) เป็นอุปกรณ์สำคัญอีกชิ้นหนึ่ง
โดยทำงานร่วมกับแผ่นดิสก์เก็ตเพื่อเก็บ หรือเคลื่อนย้ายไฟล์ข้อมูลขนาดเล็ก
การติดตั้งฟล็อปปี้ดิสก์ไดรว์นั้นจะมีการต่อสายสัญญาณ และสายไฟเลี้ยงเข้ากับ
ไดรว์ด้วย

ติดตั้งสายไฟเลี้ยงและสายเคเบิลเ้ข้ากับฟล็อปปี้ดิสก์ไดรว์
ก่อนอื่นให้เราติดตั้งตัวไดรว์กันก่อน โดยสอดฟล็อปปี้ดิสก์ไดรว์ เข้าไปในช่องที่ได้จัดไว้โดยเฉพาะซึ่งด้านหน้าของเคสจะมีช่องสำหรับใช้เป็นทางเข้าออก
ของแผ่นดิสก์
ใช้ไขควงขันน็อตยึดฟล็อปปี้ดิสก์ไดรว์เข้ากับตัวเคส เพื่อป้องกันไม่ให้
ไดรว์เกิดการเคลื่อนที่ในขณะที่เอาแผ่นเข้าไป สำหรับฟล็อปปี้ดิสก์ไดรว์จะมีสาย
ให้เราติดตั้งอยู่ 2 สายคือ สายไฟเลี้ยง และสายเคเบิล โดยเราจะเริ่มติดตั้งส่วนที่
อยู่ด้านในสุดก่อนเพื่อง่ายต่อการสอดมือเข้าไป

เสียบขั้วของสายไฟให้เข้ากับล็อกของซ็อกเก็ตจนติดแน่น และเสียบสาย
เคเบิ้ลสัญญาณเข้าไปในซ็อกเก็ต ซึ่งโดยปกติแล้วบนขั้วสายเคเบิลจะมีสลักที่
กำหนดให้ขั้วสายเสียบเข้าไปพอดีกับร่องที่อยู่บนซ็อกเก็ต

ติดตั้งสายเคเบิลฟล็อปปี้ดิสก์ไดรว์บนเมนบอร์ด
สายเคเบิลสำหรับฟล็อปปี้ดิสก์ไดรว์อีกด้านหนึ่งนั้นจะติดตั้งลงบนสล็อต FDD บนเมนบอร์ด (อาจติดตั้งก่อนนำเมนบอร์ดมาวางบนเคสก็ได้) ดังขั้นตอนต่อ
ไปนี้
1. จับขั้วต่อของสายเคเบิล มาเสียบเข้ากับซ็อกเก็ตฟล็อปปี้ดิสก์ไดรว์โดย
หันให้แถบสีแดงของสายเคเบิลตรงกับที่ขา 1 ของซ้อกเก็ต ฟล็อปปี้ดิสก์ไดรว์
หรือเสียบขั้วต่อของสายเคเบิลให้แถบพลาสติกนูนเข้ากับร่องของซ็อกเก็ต จาก
นั้นให้กดด้านขวาของขั้วต่อสายเคเบิลลงไปก่อน

2. เลื่อนนิ้วที่กดอยู่ลูบมายังอีกด้านหนึ่ง จนขั้วต่อสายเคเบิลถูกกดเข้าไป
ในซ็อกเก็ตทั้งหมด

6.2 ติดตั้งฮาร์ดดิสก์ไดรว์
ฮาร์ดดิสก์ (Harddisk) เป็นอุปกรณ์สำหรับเก็บข้อมูลทั้งหมดบนเครื่อง ซึ่งเมนบอร์ดในปัจจุบันมักมีขั้วต่อ IDE สำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์ IDE (ฮาร์ดดิสก์
มาตรฐาน IDE หรือไดรว์ซีดี/ดีวีดี) มาให้ 2 ช่อง คือ Primary IDE และ Secondary IDE โดยแต่ละช่องสัญญาณสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ IDE ได้ 2 ตัว(โดยกำ
หนดให้ตัวหนึ่งมีสถานะเป็น Master หรืออุปกรณ์ตัวหลักและตัวที่เหลือเป็น Slave) ดังนั้นตามปกติเราสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ IDE ได้อย่างมากถึง 4 ตัวภายใน
เครื่อง (หมายความว่าเราติดตั้งฮาร์ดดิสก์ได้มากกว่า 1 ตัวในเครื่องก็ได้)

ติดตั้งฮาร์ดดิสก์เข้ากับเคส
บนตัวเคสนั้น จะมีช่องสำรหับติดตั้งฮาร์ดดิสก์ไว้ 2 ตัว ซึ่งอยู่บริเวณด้านล่างของฟล็อปปี้ดิสก์ไดรว์ ดังรูป
ใส่ฮาร์ดดิสก์เข้าไปในช่องที่มีขนาดพอดีกับฮาร์ดดิสก์ จากนั้นเล็งตำแหน่ง
ช่องที่จะยึดน็อตให้ตรงพอดี และใช้ไขควงขันน็อตยึกตัวฮาร์ดดิสก์ใ้ห้เข้ากับเคส
เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวไดรว์หลุดออกจากช่องเมื่อมีการยก หรือเคลื่อนย้ายเครื่อง

เสียบสายเคเบิลเสียเข้ากับซ็อกเก็ตของฮาร์ดดิสก์ และเสียบขั้วของสาย
จ่ายไฟเลี้ยงฮาร์ดดิสก์เสียบเข้าไปในซ็อกเก็ต โดยจะมีที่เลือกเป็นตัวบังคับไว้

ติดตั้งสายเคเบิล IDE บนเมนบอร์ด
เราจะต่อสายเคเบิลอีกด้านหนึี่งเข้ากับซ็อกเก็ต IDE1 บนเมนบอร์ด โดยใช้ขั้นตอนดังนี้
1. จับขั้วต่อของสายเคเบิลมาเสียบกับซ็อกเก็ต IDE1 โดยหันให้แถบสี
แดงของสายเคเบิลตรงกับที่ขา 1 ของซ็อกเก็ต IDE1 หรือสิ่งที่สังเกตง่าย ๆ คือ
ขั้วต่อของสายเคเบิลจะมีแถบพลาสติกนูนขึ้นมา ซึ่งจะต้องถูกเสียบให้ลงกับร่อง
ของซ็อกเก็ต IDE1 (หากเราหันผิดด้านก็จะไม่สามารถเสียบลงไปได้) จากนั้นให้
กดด้านขวาของขั้วต่อสายเคเบิลลงไปก่อน

2. เลื่อนนิ้วที่กดอยู่มาอีกด้านหนึ่งจนขั้วต่อสายเคเบิลถูกกดเข้าไปในซ็อก
เก็ต IDE ทั้งหมด

ติดตั้งฮาร์ดดิสก์ Serial ATA
ฮาร์ดดิสก์ Serial ATA เป็นมาตรฐานใหม่ที่จะเข้ามาแทนที่ฮาร์ดดิสก์แบบ IDE เดิมซึ่งสามารถรับ/ส่งข้อมูลได้เร็วกว่า รวมทั้งการติดตั้งนั้นใช้สายสัญญาณ
ที่เล็กกระทัดรัด ทำให้ภายในเครื่องสามารถระบายอากาศได้ดีกว่า โดยการติดตั้งนั้นคล้าย ๆ กัน คือมีช่องสายสัญญาณ และสายไฟเลี้ยง

6.3 ติดตั้งไดรว์ซีดี/ดีวีดี
ไดรว์ซีดี/ดีวีดี (CD/DVD Drive) เช่น ไดรว์ CD-RW, ไดรว์ DVD หรือ DVD-RW ก็ตามต่างเป็นอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์
ในปัจจุบัน การติดตั้งไดรว์ซีดี/ดีวีดีนั้นคล้ายกับการติตดั้งฟล็อปปี้ดิสก์ไดรว์นั่นเอง คือมีการเชื่อมต่อสายสัญญาณและสายไฟเลี้ยงให้กับตัวไดรว์ หลังจากติดตั้ง
ไดรว์เข้ากับตัวเคสแล้ว
ติดตั้งไดรว์ซีดี/ดีวีดีเข้ากับเคส
เริ่มต้นติดโดยการใส่ตัวไดรว์เข้าไปในช่องด้านหน้าที่เราได้เปิดเอาไว้ ใช้มือปรับให้หน้าปัดของซีดีรอมไดรว์ที่ยื่นออกไปนั้นพอดีกับของของเคส ต่อไปให้
ใช้ไขควงขันน็อตยึดตัวซีดีรอมไดรว์ให้เข้ากับเคสทั้งสองข้าง เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวไดรว์เคลื่อนย้ายเมื่อมีการใส่แผ่น หรือเอาแผ่นออก

ต่อไปเราก็จะต้องต่อสายเคเบิล สายสัญญาณเสีย และสายไฟเลี้ยงเข้ากับ
ไดรว์นี้ โดยเสียบสายสัญญาณเสียง เข้าไปให้ตรงกับช่องของซ็ิอกเก็ตด้านหลัง
ตัวซีดีรอมก่อน จากนั้นเสียบสายเคเบิลจาก IDE 2 เสียบเข้าไปในช่องของซ็อก
เก็ตซีดีรอม และสายไฟสำหรับจ่ายไฟเลี้ยงให้กัีบซีดีรอมเสียบเข้าไปให้ซ็อกเก็ต
ตามลำดับ

7. ติดตั้งการ์ดแสดงผล และการ์ดเสียง
หลังจากติดตั้งไดรว์ต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว ในขั้นตอนนี้เราจะทำการติดตั้งอุปกรณ์ที่มีลักษณะเป็นการ์ดเสียบอยู่บนสล็อตต่าง ๆ บนเมนบอร์ด ซึ่งได้แก่
7.1 ติดตั้งการ์ดแสดงผล
หลังจากที่เราเปิดฝาด้านหลังเคสเรียบร้อยแล้ว เราก็จะเริ่มต้นติดตั้งการ์ดแสดงผล (Display Card หรือ Graphic Card) เป็นตัวแรกซึ่งติดตั้งเข้ากับสล็อต
AGP หรือ PCI Express โดยเล็งให้ร่องที่อยู่บนการ์ดนั้นตรงกับแกนที่อยู่บนสล็อตจากนั้นให้กดลงบนการ์ดทางมุมด้านซ้ายลงไปก่อน แล้วจึงกดมุมด้านขวาตาม
ลงไป จากนั้นใช้ไขควงขันน็อตยึดแผ่นเหล็กของการ์ดเข้ากับตัวเคส เพื่อป้องกันไม่ให้การ์ดหลุดเมื่อมีการถอด และเสียบต่อสายสัญญาณจอภาพเข้ากับคอนเน็ก
เตอร์ของการ์ด

7.2 ติดตั้งการ์ดเสียง
การ์ดอีกตัวหนึ่งที่เราจะติดตั้งก็คือ การ์ดเสียง (Sound Card) ซึ่งจะต้องติดตั้งอยู่บนตำแหน่งสล็อต PCI โดยนำสายสัญญาณเสียงที่ต่อออกมาจากช่อง
จ่ายสัญญาณเสียงของซีดีรอม โดยเสียบขั้วของสายสัญญาณเสียงเข้ากับซ็อกเก็ตบนการ์ดเสียง ซึ่งบนตัวซ็อกเก็ตจะมีข้อความบอกว่า CD-ROM คือเป็นการรับ
สัญญาณเสียงมาจากซีดีรอมนั่นเอง
จากนั้นเสียบการ์ดเสียงลงบนสล็อต PCI โดยเล็งให้ร่องที่อยู่บนการ์ดนั้นตรงแกนที่อยู่บนสล็อตจากนั้นให้กดลงบนการ์ดทางมุมด้านซ้ายลงไปก่อน แล้วจึง
กดมุมด้านขวาตามลงไป และใช้ไขควงขันน็อตยึดแผ่นเหล็กของการ์ดเข้ากับตัวเคส เพื่อป้องกันไม่ให้การ์ดหลุดเมื่อมีการถอด และเสียบต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ เข้ากับ
คอนเน็กเตอร์ของการ์ด

8. ปิดฝาเคส
หลังจากที่เราได้ทำการติดตั้งอุปกรณืต่าง ๆ เสร็จสมบูรณ์แล้ว ต่อไปให้เราสำรวจไม่ให้มีตัวนำไฟฟ้า เช่น น็อตตกหล่นอยู่ในเคส เป็นต้น จากนั้นให้เก็บสาย
เคเบิลต่าง ๆ ให้เป็นระเบียบ เสร็จเรียบร้อยแล้วเราก็จะทำการปิดฝาเคส นำฝาเคสมาวัดเข้ากับตัวเคส โดยเล็งให้ตัวล็อกที่ฝานั้นตรงกับตัวเคส และใช้มือเลื่อนฝา
เคสให้เข้าไปจนสุดของตัวเล็อก

9. ติดตั้งอุปกรณ์ภายนอก
เมื่อได้ทำการประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์ภายในตัวเคสคือ ซีพียู แรม ฮาร์ดดิสก์ไดรว์ ซีดีรอม ฟล็อปปี้ดิสก์ไดรว์ และการ์ดเชื่อมต่อเข้ากับพอร์ตต่าง ๆ เสร็จ
สมบูรณ์แล้ว ต่อไปเราก็จะนำอุปกรณ์ภายนอกมาต่อร่วมเข้ากับเคส ได้แก่ เมาส์ คีย์บอร์ด จอแสดงผล ลำโพง และสายเพาเวอร์
9.1 การติดตั้งเมาส์
การติดตั้งเมาส์ไม่ใช่เรื่องยากเลย แต่ต้องระวังไม่ให้ไปสลับกับช่อง PS/2
ของคีย์บอร์ดที่มีสีม่วง (ของเมาส์จะเป็นสีเขียว) โดยใช้มือจับขั้วสายของเมาส์
เสียบเข้ากับคอนเน็กเตอร์ที่มีสัญลักษณ์รูปเมาส์บอกให้ทราบอยู่ทางด้านข้าง

9.2 การติดตั้งคีย์บอร์ด
ขั้วต่อ PS/2 ของคีย์บอร์ดจะอยู่ใกล้ ๆ กับของเมาส์นั่นเอง โดยจะมีสีม่วง
ให้เราใช้มือจับขั้วสายของคีย์บอร์ดเสียบเข้ากับคอนเน็กเตอร์ ที่มีสัญลักษณ์รูป
คีย์บอร์ดบอกให้เราทราบอยู่ทางด้านข้าง

9.3 การติดตั้งสายสัญญาณจอภาพ
การติดตั้งสายสัญญาณของจอภาพซึ่งมาจากด้านหลังของจอ ต่อเข้ากับ
พอร์ต VGA ซึ่งอยู่ทางด้านหลังของเคส

9.4 การติดตั้งสายลำโพง
ลำโพงจะมีสายเชื่อมต่อออกมาเข้ากับช่องต่อ Audio-out ที่อยู่บนตัว
การ์ดเสียง ที่มองเห็นได้ทางด้านหลังของตัวเคส ให้เราต่อขั้วของสายสัญญาณ
เสียงเสียบเข้าไปในช่อง Audio Out ของการ์ดเสียง เพื่อส่งสัญญาณเสียงไป
ขยายออกทางลำโพง

9.5 การติดตั้งสายเพาเวอร์
สายเพาเวอร์ (Power Cable) เป็นสายไฟที่ต่อจากไฟบ้านเข้าสู่ตัวจ่ายไฟ
(Power Supply) ของคอมพิวเตอร์ ให้จับขั้วสายตัวเมียของสายเพาเวอร์วัดเข้า
กับขั้วตัวผู้ด้านหลัง Power Supply โดยหันขั้วในล็อกตรงกัน

หลังจากติดตั้งอุปกรณ์ภายนอกเสร็จทุกตัวแล้ว ให้จัดสายไฟและสายสัญญาณต่าง ๆ ให้เป็นระเบียบ และจัดวางอุปกรณ์ต่าง ๆ ไว้ในตำแหน่งที่เหมาะสม
และสะดวกสำหรับการทำงาน

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น